Octane: ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องยนต์ และเพิ่มพลังงานแก่ยานพาหนะ?

 Octane: ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องยนต์ และเพิ่มพลังงานแก่ยานพาหนะ?

Octane เป็นคำที่คุ้นหูสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์หรือสนใจเรื่องเครื่องยนต์อย่างแน่นอน แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า octane นั้นคืออะไร และทำไมมันถึงสำคัญต่อการทำงานของเครื่องยนต์ของเรา autant?

ในบทความนี้ เราจะมาไขปริศนาทั้งหมดเกี่ยวกับ octane!

Octane เป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญของเชื้อเพลิงที่เราใช้ในการขับเคลื่อนยานพาหนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน มันถูกกำหนดเป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงความสามารถของเชื้อเพลิงในการทนต่อการระเบิดก่อนวัยอันควร (pre-ignition) หรือที่เรียกว่า “knock”

Octane Rating: เลขบอกคุณภาพเชื้อเพลิง

ค่า octane rating จะถูกกำหนดโดยมาตรฐานการทดสอบของแต่ละประเทศ เช่น RON (Research Octane Number) และ MON (Motor Octane Number) ซึ่งมีวิธีการทดสอบที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยทั่วไปแล้วค่า octane จะอยู่ระหว่าง 87 ถึง 100 ยิ่งเลข octane rating สูงเท่าไหร่ เชื้อเพลิงก็จะยิ่งมีความสามารถในการต้านทานการระเบิดก่อนวัยอันควรมากขึ้นเท่านั้น

ทำไม octane rating จึงสำคัญ?

การระเบิดก่อนวัยอันควร (knock) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ระเบิด prematurely ก่อนที่จะถูกจุดชนวนจากหัวเทียน มันจะทำให้เกิดเสียงดัง, การสั่นสะเทือน และความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้

เชื้อเพลิงที่มี octane rating สูงกว่าจะช่วยป้องกันการเกิด knock ได้ดีกว่า เนื่องจากเชื้อเพลิงเหล่านี้มีอณูโมเลกุลที่เสถียรกว่าและมีความต้านทานต่อการระเบิดก่อนวัยอันควรสูงขึ้น

Octane และประสิทธิภาพเครื่องยนต์

การใช้ octane rating ที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเชื้อเพลิงสามารถเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์และควบคุมได้ดี เครื่องยนต์ก็จะสามารถผลิตกำลังขับเคลื่อนได้สูงขึ้น

นอกจากนี้ การใช้ octane rating ที่เหมาะสมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์อีกด้วย เนื่องจากการระเบิดก่อนวัยอันควร (knock) จะทำให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนภายในของเครื่องยนต์ ดังนั้น การเลือกใช้ octane rating ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการดูแลรักษาและยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์

ตารางเปรียบเทียบ Octane Rating และประสิทธิภาพเชื้อเพลิง

Octane Rating ประสิทธิภาพเชื้อเพลิง
87 เหมาะสมสำหรับรถยนต์เก่าและเครื่องยนต์ขนาดเล็ก
91 เหมาะสมสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่และเครื่องยนต์ขนาดกลาง
95 เหมาะสมสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงและเครื่องยนต์ขนาดใหญ่

การผลิต Octane

Octane ไม่ได้เป็นสารเคมีที่พบตามธรรมชาติ มันถูกสร้างขึ้นมาจากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ (crude oil)

กระบวนการผลิต octane มีหลายขั้นตอน โดยเริ่มจากการแยกส่วนประกอบของน้ำมันดิบออกจากกัน จากนั้นก็จะนำส่วนประกอบเหล่านี้ไปผ่านกระบวนการแปลงสภาพ (conversion process) เพื่อสร้างโมเลกุลเชื้อเพลิงที่มี octane rating สูงขึ้น

ตัวอย่างเช่น กระบวนการ cracking จะช่วยแบ่งโมเลกุลขนาดใหญ่ของน้ำมันดิบออกเป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่เหมาะสมกับการเผาไหม้ในเครื่องยนต์

กระบวนการ alkylation จะช่วยรวมโมเลกุลของน้ำมันดิบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างโมเลกุลเชื้อเพลิงที่มี octane rating สูงขึ้น

ข้อสรุป

Octane เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเชื้อเพลิงและมีบทบาทสำคัญในการกำหนดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์

การเลือกใช้ octane rating ที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์รถยนต์ของคุณจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น, ลดการเกิด knock และยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์